ทำไฟดับทั่วใต้ หวังสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่

ชาวบ้านกลุ่มพิทักษ์ปกาสัย เผยเหตุไฟดับทั่วภาคใต้เป็นแผนบันไดขั้นแรกของ กฟผ. อ้างปริมาณไฟไม่เพียงพอหวังลดกระแสการต่อต้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยในวันที่ 22 พ.ค.56 นายสุนทร ศรประเสริฐ ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มพิทักษ์ปกาสัย

ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ กล่าวถึงเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า กรณีที่เกิดขึ้นอาจเป็นแผนการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือรัฐบาลที่ได้วางไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นการลดกระแสการต่อต้าน โครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 800 เมกะวัตต์ ที่มีแผนจะสร้างในพื้นที่ ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่

นายสุนทร เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องลึกพบว่า ทาง กฟผ. มีแผนบันได 3 ขั้น เพื่อปูทางไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ จ.กระบี่ ซึ่งการเกิดไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้เป็นบันไดขั้นแรก เมื่อไฟฟ้าดับบ่อย ทำให้ประชาชนมีความต้องการไฟฟ้า และอาจทำให้การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินราบรื่น โดยในส่วนของกลุ่มพิทักษ์ปกาสัย ไม่เชื่อว่าจะเป็นอุบัติเหตุ เพราะการที่ไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้พร้อมกันเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะเดินหน้าค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินต่อไป

ด้าน นายสุรพล วงศ์ธัญญกรณ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคใต้ จ.กระบี่ เปิดเผยว่า กรณีที่ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ไฟฟ้าดับภาคใต้เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เป็นการสร้างกระแสให้เกิดการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ขอชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ทั้งนี้ การที่โรงไฟฟ้ากระบี่หยุดผลิตกระไฟฟ้า

เนื่องจากได้ปิดซ่อมฉุกเฉินมาตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมาแล้ว จากนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จ ในวันที่ 24-25 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ประจำปี เมื่อซ่อมเสร็จก็จะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ตามปกติ ลดความเสี่ยงกรณีไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้อาจเกิดขึ้นได้อีกระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ นายสุรพล กล่าวต่อว่า จะสามารถเดินเครื่องเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ 340 เมกะวัตต์ ภายในวันที่ 24 พ.ค.56 นี้ หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ เพื่อรองรับการหยุดซ่อมประจำปีของโรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ที่จะหยุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อเป็นการเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ไฟดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้า ตนเชื่อว่ามีความจำเป็นในการก่อสร้าง ในภาพรวมประเทศไทยต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มปีละ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือ 100-200 เมกะวัตต์ต่อปี