ไฟไหม้เรือรบหลวงลันตา กระบี่

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบจ.กระบี่ และอีกหลายหน่วยงาน เร่งนำน้ำฉีดเข้าไปภายในเรือรบหลวงลันตา หลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เรือรบหลวงลันตา ที่นำมาไว้บนฝั่งหน้า อบจ.กระบี่ เบื้องต้น ยังไม่ระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ หลังจากรับแจ้งว่า มีควันไฟออกมาตามปล่องต่างๆ เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำเข้าไปสกัดเพลิงที่ลุกไหม้อยู่ภายในเรือ

ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ พร้อมด้วย ผู้บริหาร อบจ. ได้เดินทางมาตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงฉีดน้ำเข้าไปในเรือเท่านั้น ยังไม่สามารถเข้าไปภายในเรือได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุของเพลิงที่ลุกไหม้นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ จะต้องรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอีกครั้ง และถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 55 ได้เกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง

สำหรับ เรือรบหลวงลันตา เป็นเรือยกพลขึ้นบกและเรือลาดตระเวนขนาดใหญ่ มีความยาว 98 เมตร กว้าง 15.5 เมตร สร้างเมื่อปี 2488 โดย กองทัพเรือสหรัฐฯ จากนั้น ปี 2513 ได้ส่งมอบให้กองทัพเรือไทยและได้รับการพระราชทานชื่อเป็นเรือหลวงลันตา 714 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2542 ได้ปลดประจำการจากนั้น อบจ.กระบี่ ขอมาจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่

ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายก อบจ.กระบี่ และผู้เกี่ยวข้อง ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีเกิดเหตุไฟไหม้เรือรบหลวงลันตา เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ว่า เบื้องต้นการเกิดเหตุเพลิงไหม้จากภายในตัวเรือ บริเวณห้องครัวเดิม ซึ่งขณะนี้มีการตกแต่งภายในเพื่อปรับปรุงตามโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงลันตา และศูนย์การเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา

ซึ่งการตกแต่งภายในห้องมีการบุโฟมกันความร้อน ซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ยังไม่แน่ชัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกระบี่ เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดไฟไหม้อีกครั้งว่าเกิดจากสาเหตุใด และจากการตรวจสอบเบื้องต้นความเสียหายเกิดเฉพาะในบริเวณห้องครัวที่มีการบุโฟมเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท ในส่วนของโครงสร้างนั้นจากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด

Source : news.sanook.com / manager.co.th