“ปชน.” ห่วงท่องเที่ยวไทยซบเซา แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงต่อเนื่องโดยเฉพาะจากจีน จากสาเหตุภายใน-ภายนอก ชงข้อเสนอระยะสั้น-ยาว เร่งฟื้นสถานการณ์ แนะรัฐบาลเร่งให้ความชัดเจนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” หวังช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ชี้หากไม่เตรียมตัวเศรษฐกิจไทยแย่กว่านี้แน่
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม เวลา 10.30 น.ที่ รัฐสภา นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ(กมธ.)การท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวว่า ผ่านมาแล้ว1 ไตรมาส ของปี 68 การท่องเที่ยว ณ ตอนนี้ภาพเริ่มแสดงให้เห็นได้ชัดว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยซบเซาลง จากข้อมูลหลายตัวเลข แสดงให้เห็นชัดว่าตั้งแต่เดือน ก.พ.การท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง หากเจาะลงไปในรายละเอียด ประเทศที่ลดลงมากที่สุดความหมายนักท่องเที่ยวจากจีน ลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ มาเลเซียลดลง 4 เปอร์เซ็นต์เกาหลีใต้ลดลง 15 เปอร์เซ็นต์ มีแค่ 2 ประเทศที่เพิ่มขึ้น เช่นนั้นแล้วคือรัสเซียเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์รวมทั้งอินเดีย เพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซนต์ จะเห็นได้ว่าในภาพรวมนักท่องเที่ยวลดลงมากกว่าเพิ่มขึ้น ซึ่งการท่องเที่ยวที่ลดลงส่งผลให้ กทม.มีนักท่องเที่ยวลดลง 7.91 เปอร์เซ็นต์ เชียงใหม่ ลดลง 2.76 เปอร์เซ็นต์ ภูเก็ต ลดลง 3.5 เปอร์เซ็นต์ สงขลา ลดลง 14 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง บางคนบอกว่าเพิ่มเกิดแผ่นดินไหวปลายเดือนมี.ค.แต่สัญญาลดลงตั้งแต่ก.พ.แล้ว แน่นอนว่าแผ่นดินไหวเป็นส่วนหนึ่ง แต่ปัญหาอื่นๆส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มาเที่ยวประเทศเรา มีปัยจัยภายนอก เกิดจากเศรษฐกิจผันผวน นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ หมายรวมไปถึงประเทศจีน ที่อยากให้คนจีนเที่ยวในประเทศ อาจจะรวมถึงประเทศอื่นๆที่ทำการตลาดเชิงรุกด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเหตุภายนอกที่อาจจะรับมือยากหน่อย แต่เราก็ต้องเตรียมความพร้อม สำหรับเหตุภายใน ตลอดระยะเวลา 1-2 ปีมานี้ความไม่ปลอดภัยจากการท่องเที่ยว ทั้งกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้า ดาราจีนถูกหลอก ทำให้ภาพลักษณ์ที่ออกไปในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้เขาเชื่อว่าประเทศไทย ไม่มีความเชื่อมั่น ไม่มีความปลอดภัยที่เขาจะมาท่องเที่ยว
นายณัฐพล กล่าวว่า ส่วนนโยบายของทรัมป์ อาจจะไม่กระทบตอนนี้ แต่จะทำให้ผู้ประกอบการ ได้รับผลกระทบ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน จำเป็นต้องรัดเข็มขัดการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลต่อการมาท่องเที่ยว ซึ่งผลจากความไม่แน่นอนจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แค่ประเทศไทย สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายแต่ยังบอกไม่ได้ว่าในช่วงเดือนที่เหลือในปีนี้การท่องเที่ยวจะเป็นอย่างไร จะแย่กว่าเดิมหรือจะดีขึ้นกว่าเดิม ความท้าทายเหล่านี้จะพิสูจน์ความสามารถของรัฐบาล เราทราบกันดีว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว แต่ความเป็นรูปธรรมของนโยบายการท่องเที่ยว จะมีเรื่องของฟรีวีซ่า วีซ่าฟรี แน่นอนว่าช่วงแรกตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่เคารพกฎหมายของเรา เป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่มีคุณภาพ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเท่ากับผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย ร่วมด้วยนักท่องเที่ยวด้วยกันเอง ทำให้การท่องเที่ยวของเราดูไร้คุณภาพ รวมถึงเทศกาลต่างๆที่รัฐบาลพยายามยกระดับให้เป็นระดับโลก เพื่อให้เทศกาลดึงคนเข้ามา แต่ที่เราเห็นจริงๆจังๆ หมายความว่างานมหาสงกรานต์ 2ปี แต่ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ตัดสินใจมาเพราะงานที่รัฐบาลจัด หากจะทำให้เป็นระดับโลกควรทำมากว่าอนุมัติงบกลางเพียงแต่ 1 เดือนครึ่งก่อนงานมหาสงกรานต์ อย่างนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปโปรโมตให้ต่างชาติเห็นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย รวมถึงการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยว เราเห็นเพียงการผลักดัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แล้วบอกว่านี่เช่นนั้นแล้วคือแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่สามารถดึงเม็ดเงินเข้ามาได้ แต่จะดึงเม็ดเงินมาได้ก็ต่อเมื่อ พ.ร.บ.ผ่าน รวมไปถึงมีการประมูล
นายณัฐพล กล่าวด้วยว่า ส่วนปัญหาภายในที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างการปราบปรามกลุ่มจีนเทาก็ทำได้สายเกินไปจนภาพลักษณ์ของไทยเสียไปหมดแล้ว ขณะเดียวกันไม่มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาอื่นๆ เช่น มาตรฐานรวมทั้งความปลอดภัย การจัดระเบียบ การกำกับผู้ประกอบการ การจัดการกับนักท่องเที่ยวที่ไม่เคารพกฎหมาย รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่น ส่วนที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน 2568” ช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน ที่รัฐบาลจะจ่ายครึ่งหนึ่งให้คนไทยเที่ยว วันนี้เข้าสู่เดือนพฤษภาคมแล้วก็ยังไม่รู้ว่าต้องลงทะเบียนที่ไหน ใช้สิทธิอย่างไร ผู้ประกอบการจะเข้าร่วมอย่างไร มีกี่สิทธิ หมายรวมไปถึงรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้หรือยัง
นายณัฐพล กล่าวว่า ดังนั้นพรรคประชาชนจึงมีข้อเสนอทั้งระยะสั้นประกอบกับระยะยาว โดยรระยะสั้น ต้องมีการหานักท่องเที่ยวต่างชาติมาทดแทนนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป รัฐบาลต้องเน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศอื่น พยายามทำตลาดกับกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้กลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ของไทยมากขึ้น โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในก็ต้องมีความชัดเจนว่าจะใช้งบประมาณเท่าไรบวกกับใช้ได้กี่สิทธิ เพื่อชดเชยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปได้อย่างเหมาะสม ร่วมกับประคับประคองผู้ประกอบการได้อย่างทั่วถึงนอกจากนี้ รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาสร้างปัญหาในประเทศไทย โดยทบทวนมาตรการฟรีวีซ่ารวมทั้งวีซ่าฟรี โดยเบื้องต้นอาจลดจำนวนวันที่อนุญาตให้อยู่ในไทยได้ลงก่อน หมายรวมไปถึงควรเร่งประชาสัมพันธ์รวมไปถึงบังคับให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกรอก Thai Digital Arrival Card (TDAC) หรือใบ ตม.6 ออนไลน์ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เริ่มนำมาใช้แล้วในวันที่ 1 พ.ค.รวมถึงควรปรับโทนการประชาสัมพันธ์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จาก “ประเทศไทยน่าเที่ยว” เป็น “ประเทศไทยปลอดภัยสำหรับทุกคน” เพื่อคลายข้อกังวลจากกระแสข่าวเชิงลบ โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน
นายณัฐพล กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอระยะยาว รัฐบาลควรขจัดปัญหาภายในอื่นๆ เช่น ความปลอดภัย มาตรฐาน ความสะดวก ความสะอาด ความเป็นธรรม จัดการกับธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย ทลายกลุ่มอาชญากรรม รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เป็นองค์ประกอบของการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่การสร้างหรือขยายสนามบิน
“พรรคประชาชนหวังว่ารัฐบาลจะเร่งรับมือกับความเสี่ยงที่จะทำให้การท่องเที่ยวไทยเสียหายไปมากกว่านี้ หากไม่เตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นดังเช่นเจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ พนักงานลูกจ้าง รวมถึงธุรกิจอื่นที่เชื่อมโยงก็จะยิ่งทรุดไปมากกว่านี้ ปากท้องประชาชนจะมีปัญหามากกว่านี้ บวกกับเศรษฐกิจไทยก็จะแย่ไปมากกว่านี้”นายณัฐพล กล่าว
ด้านนายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว จว.ภูเก็ตซบเซา ว่า ต้องยอมรับว่าภูเก็ตเป็นเครื่องจักรสำคัญในภาคการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ จากตัวเลขนักท่องเที่ยวประกอบไปด้วยรายได้ของการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตในไตรมาสแรกปี 2568 มีตัวเลขพุ่งสูงขึ้นในเดือนมกราคม เท่านั้น แต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน กลับมีตัวเลขต่ำลง เมื่อนำตัวเลข 3 เดือนหลังมารวมกันก็เท่ากับเดือนมกราคมที่นักท่องเที่ยวหายไป ประกอบไปด้วยการสร้างรายได้ต่างๆก็มีเสียงสะท้อนจากประกอบการในพื้นที่ในเรื่องของต้นทุน ทั้งค่าวัตถุดิบ และก็ ค่าไฟที่แพงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระ ประกอบไปด้วยต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น รวมโครงสร้างพื้นฐานในจังหวัดภูเก็ต มีความแออัด ในเรื่องเกี่ยวกับการจราจร การขนส่งทางบก รวมทั้งขนส่งสาธารณะที่ยังดีพอให้กับนักท่องเที่ยว หมายรวมไปถึงเป็นอุปสรรคแม้ว่า จ.ภูเก็ตจะมีศักยภาพการท่องเที่ยวระดับโลก แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในระยะยาวได้ ซึ่งขณะนี้การท่องเที่ยวกำลังหลั่งไหลไปที่ประเทศเวียดนาม แล้วก็มาเลเซีย
นายเฉลิมพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จังหวัดภูเก็ตยังต้องไปเผชิญความท้าทายในเรื่องของกลุ่มทุนต่างชาติที่มาถือครอง เป็นนอมินี ประกอบกับประกอบธุรกิจสีเทา รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติหมายรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมที่ภูเก็ตต้องสูญเสียไป มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเล มีขยะล้นเมือง และมีนักท่องเที่ยวฟรีวีซ่าที่ไร้ซึ่งคุณภาพ ในการมาท่องเที่ยวในภูเก็ต ทำให้ภาพลักษณ์เหล่านี้สื่อสารออกไปทำให้ทั่วโลกมองเห็นภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่สะอาดสวยงามปลอดภัยเช่นเดิม รวมถึงมีการประกอบธุรกิจร้านกัญชาทุกหัวมุมถนน ทุกแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนไม่ให้ความเชื่อมั่นที่จะมาท่องเที่ยว เนื่องจากในเรื่องของยาเสพติดในประเทศจีนค่อนข้างที่จะมีโทษอัตราที่สูง ถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่กล้าที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งกันไปท่องเที่ยวยังประเทศอื่น ทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตซบเซา
“อยากเรียกร้องไปยังรัฐบาล ควรใส่ใจร่วมกับดูแลในเรื่องของการท่องเที่ยว รวมทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้ไทยสามารถแข่งขัน และก็ทัดเทียมกับประเทศที่เป็นเมืองของการท่องเที่ยวชั้นนำ แน่นอนว่าภูเก็ตมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม ไม่แพ้ชาติใดในโลก รวมถึงเราสามารถพัฒนา จ.หรือพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยวได้ หากมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ประกอบไปด้วยการแก้ไขปัญหา ซึ่งผมมองว่า ฟรีวีซ่า เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพียงระยะสั้น แต่ส่งผลกระทบระยะยาว ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศเดือดร้อน”นายเฉลิมพงศ์กล่าว
เนื้อหาเรียบเรียงใหม่จากต้นฉบับข่าวทาง มติชนออนไลน์ อย่าพลาดเรื่องราวใหม่ ๆ จากเรา ที่เดียว เที่ยวคลองม่วง กระบี่ รวมเรื่องราวสังคม แนะนำแหล่งท่องเที่ยวคลองม่วง จังหวัดกระบี่ และสถานที่น่าสนใจใกล้เคียง