อ่าวลึก จูราสิคและยุคมนุษย์ถ้ำเมืองไทย

หากพูดถึงอ่าวลึก หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อ แต่หากจะบอกว่า แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ หลายคนก็อาจจะทราบ และยิ่งถึงบางอ้อ หากจะบอกว่า อ่าวลึก ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เดียวกับ ท่าปอม คลองสองน้ำ นั่นเอง และที่นี่ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายอย่าง หลายสถานที่ ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัส มนต์เสนห์ของอ่าวลึก จังหวัดกระบี่

อ่าวลึก กระบี่

ตะลุยอ่าวลึก ย้อนสู่ห้วงจูราสิคและยุคมนุษย์ถ้ำเมืองไทย ตอน 1

ในขณะที่เสียงหัวใจของตัวละครและคนดู เริ่มรัวเป็นจังหวะ ตุบ ตุบ ตุบ และแล้วไดโนเสาร์ตัวโตหลากสายพันธุ์ ก็เผยโฉมหน้า วิ่งไล่ล่าเหยื่อให้ได้ตะโกนกรีดเสียง (และเสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่เห็นตัวละครวิ่งหนีเจ้าไดโน่ (Dinosaur) กันกระเจิง) ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งคราวนี้เราคงไม่ต้องไปหาฉากหรือบรรยากาศอย่างที่ว่าไกลถึงเมืองนอก เมืองนา ทว่า เดินทางมาที่เครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนอ่าวลึก หมู่ที่ 2 ตำบลอ่าวลึกเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ทุกท่านก็จะได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนได้ย้อนไปสู่คาบเวลาจูราสิค แห่งมหายุคมีโซโซอิค (65-251 ล้านปี) ที่มีสัตว์ขนาดใหญ่ ไดโนเสาร์วิ่งเพ่นพ่านเต็มไปหมด ได้ไม่ยาก เพียงแต่ฉากทุกอย่างเปลี่ยนจากบนผืนดินเป็นในท้องทะเลแทนเท่านั้นเอง

วันที่เดินทางไปที่อ่าวลึก กระบี่ พี่ตู่และพี่ศักดิ์สองกูรูผู้ชำนาญภูมิศาสตร์แห่งอ่าวลึก นำเราเริ่มนับจุดสตาร์ทที่ “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเครือข่ายชุมชนอ่าวลึก” บอกเล่าความเป็นมาของบริเวณเขากาโรสและจุดสำคัญต่างๆ ที่จะพาไปชม จากนั้นก็พาลงเรือ “หัวโทง” ออกเดินทาง (แรกๆ ผมก็รู้สึกเฉยๆ เห็นแล้วงั้นๆ แต่…)

หัวโทงพาลัดเลาะแหวกผืนน้ำนิ่งสงบ ไปตามเส้นทางออกสู่ท้องทะเล สองฟากฝั่งหนาทึบไปด้วยพรรณไม้ชายเลน ดูเขียวครึ้มสุดลูกตา ได้สัมผัสลมเย็นบริสุทธิ์ จนกระทั่งมาหยุดจอดพักเรือทานข้าวเที่ยงกันที่แพกลางน้ำบริเวณอ่าวท้องม้า หน้า “เขากาโรส”

แพไม้กลางน้ำ เบื้องหลังเป็นภูเขาสูงปกคลุมด้วยต้นไม้ต้นน้อยๆ และผืนน้ำสีมรกต ช่างเป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อน นอนเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ (ไม่ธรรมดาซะแล้ว)

เรานั่งกินข้าวกับเมนูพื้นถิ่นน้ำพริกปลาทู แกงเหลืองปลาสีกุน ปลาเค็มทอด ผัดผัก…อร่อย เรียบง่าย แต่ได้อรรถรสในการดื่มด่ำธรรมชาติคลองม่วง กระบี่ไปพร้อมๆ กัน …หร่อยจังฮู้

“เขากาโรส” ขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ เว้าแหว่ง ประกาศความงามของมันเมื่อเราได้เข้าใกล้ทุกขณะ นายท้ายดับเครื่องแล้วค่อยๆ พายหัวโทงเข้าเทียบเขากาโรส เราไต่ระดับความสูงและความลาดชันเข้าสู่ถ้ำกาโรสทีละนิด ทุลักทุเลพอทน ยิ่งเท้าเปียกน้ำด้วยแล้วความลื่นยิ่งเป็นทวีคูณ นั่นก็หมายถึงการที่จะต้องระวังตัวและการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะกล้องคู่ ใจที่คล้องไว้ที่คอจะกระแทกกับผนังถ้ำก่อนจะไปถึงฝั่งฝันภาพถ้ำกาโรส

มนุษย์ถ้ำเมืองไทย กระบี่ อ่าวลึก

โอ้โห…เสียงชื่นชมในความงามของส่วนขาด ความเว้าแหว่งของหินผาที่กาลเวลาริดรอน และช่องโหว่ของถ้ำกาโรสเหมือนเป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่พาให้สายตาทอดยาวไปจรดท้องทะเล และความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศสีเขียวชะอุ่มดูสบายตาของผืนป่าโกงกางนับสิบ ไร่…หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว (…งามมากๆ…)

จากถ้ำกาโรส เราเดินทางล่องเรือกันต่อ เพื่อไป “หุบเขาปีศาจ” การเดินทางเข้าสู่หุบเขาปีศาจนั้น จากหัวโทงติดเครื่อง พี่ตู่สั่งนายท้ายดับเครื่องยนต์ แล้วใช้การพายมือเพื่อระเลียดธรรมชาติและลดมลภาวะทางเสียงที่อาจทำให้นกหรือ สิ่งมีชีวิตตระหนก

หุบเขาปีศาจ เราลอดอุโมงค์ถ้ำ ปากทางจากเขากาโรส เข้าสู่บรรยากาศแห่งห้วงเวลายุคจูราสิค กับดินแดนที่เรียกว่า “หุบเขาปีศาจ” เงียบสงบ มีเพียงเสียงฝีพายและการพูดคุยถึงความงดงามของธรรมชาติ พรรณไม้ดึกดำบรรพ์ ปาล์มโบราณ ต้นจาก รวมถึงพืชชนิดอื่น (ที่ผมเองก็ไม่ทราบทีเดียว รู้แต่ว่า อายุอานามคงมากกว่าผมหลายร้อยปี) ยืนต้นห้อยโหนสืบเผ่าพันธุ์ให้ได้ยลโฉมอย่างมากมาย

พี่ตู่ยังเสริมด้วยว่า นอกจากบริเวณนี้เคยเป็นดินแดนยุคจูราสิคเมื่อหลายล้านปีก่อนแล้ว ภาคใต้ยังเคยเป็นท้องมหาสมุทรกว้างใหญ่ จึงไม่แปลกเลยที่จะขุดค้นพบกับ สุสานหอยโบราณ (เปอร์เมียร์และแอมโมไนต์) จำนวนมาก รวมถึงการพบเจอภาพเขียนสีตามเชิงผา หลังจากมีการทับถมของชั้นดินและการแยกของเปลือกโลกจนกระทั่งมาถึงยุคของ “ไพลสโตซีน” (ประมาณแสนปีก่อน) ที่ทำให้อุบัติมนุษย์ (Homo Erectus) ขึ้น ที่เรียกกันว่า “มนุษย์ถ้ำ” นั่นเอง (ซึ่งผมจะมาเล่าต่อในคราวต่อไปนะครับ)

พายเรือไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพี่ตู่ตะโกนบอกเราให้ดูหน้าผาลูกหนึ่ง จินตนาการคร่าวๆ มีวงกลมๆ 2 วง ต่ำลงมามีวงกลมเล็กๆ 2 วง แล้วก็สามเหลี่ยมคว่ำหัว ซึ่งก็พอจะมองให้เห็นเป็นโครงหน้าของคน มี ตา จมูกและปาก แต่ดูไม่ใช่คน (ผีหรือปีศาจ คล้ายตัวละครในภาพยนตร์ Scream นั่นเอง) พายเรือมาอีกหน่อยก็เจอกับหน้าผาที่มีหน้าปีศาจอีก 2 ลูกติดๆ กัน แต่เป็นผีแบบไทยๆ ผีตาโขนนั่นเอง มิน่าล่ะถึงเรียกที่นี่ว่า “หุบเขาปีศาจ”

และแล้วเวลาแห่งการท่องยุคจุราสิคก็หมดลง แม้ว่าจะยังไม่สามารถค้นพบซากไดโนเสาร์ให้เราได้พบเห็นหรือหากมีจริงคงต้อง ใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่กาลเวลาจะพาพวกมันมาเปิดตัวต่อสายตาชาวโลก ที่ปรากฎอยู่มีเพียงสุสานหอย และฟอสซิลปะการังบนยอดเขาสูง แต่อย่างน้อย ทุกท่านที่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศอ่าวลึกแห่งนี้ ก็เหมือนได้กลับไปสัมผัสห้วงเวลานั้นอีกครั้ง…

หากใครต้องการไปสัมผัสธรรมชาติในยุคดึกดำบรรพ์ที่อ่าวลึกแห่งนี้คงต้อง จองกันล่วงหน้าสักนิด เพราะทางกลุ่มรับนักท่องเที่ยวเพียงวันละ 60 ท่านเท่านั้น เพื่อคงความสด บริสุทธิ์ของอ่าวลึกเพื่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานต่อไป

ติดต่อไปได้ที่เครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนอ่าวลึก 9/3 หมู่ที่ 2 ตำบลอ่าวลึกเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โทรศัพท์/โทรสาร : 075-634072 , มือถือ: 086-691-5151,087-470-6661

สถิติการรีวิวล่าสุด

คุณก็รีวิวบทความเราได้ แค่แชร์ แนะนำ หรือบอกต่อให้กับเพื่อนคุณ 💚

กระบี่ มีหาดคลองม่วงน่าสนใจ

มนต์ขลังของชายหาด ที่ทอดตัวยาวกว่า 5 กิโลเมตร นับตั้งแต่หาดอ่าวเสี้ยว จนสุดไปยังบ้านทับแขก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชายหาดทรายสีขาว สลับกับโขดหินน้อยใหญ่เป็นบางช่วง

กระบี่ สรุปยอด 7 วันอันตราย 2554

สรุปยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ 2554 ตาย 5 ศพ บาดเจ็บ 51 ราย โดยศูนย์นเรนทรจังหวัดกระบี่ สรุปอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ในช่วง 7

แอลนิโยทำผลิตกุ้งลด 15% กระทบคนเลี้ยงกุ้ง กระบี่

คนเลี้ยงกุ้งกระบี่เผยแอลนิโยทำผลิตกุ้งลด 15% ราคาดีจูงใจเกษตรกรเลี้ยงต่อแม้เกิดโรคขี้ขาว โดยประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง จ.กระบี่ เผย ปี 53 ที่ผ่านมาผลผลิตกุ้งลดลง 15% สาเหตุเนื่องจากปรากฎการณ์แอลนินโย และเกิดโรคขี้ขาวในกุ้ง คาดปีนี้ 54 ผลผลิตกุ้งจะกลับมาเท่ากับปี

มีคนลบบทความ คลองม่วง ใน wikipedia ออกไป

เซ็งมากเลย ผมเป็นคนทำเนื้อหาเองทั้งหมด โดยอยากจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว คลองม่วง กระบี่ เอาไว้ เพื่อว่าบางทีนักท่องเที่ยวหรือใครต่อใคร จะได้รู้จัก หาดคลองม่วง กระบี่ กันบ้าง ลงไว้เมื่อหลายปีก่อน นานแล้ว จนบทความถูกนำไปเชื่อมโยงเข้ากับข้อมูลของจังหวัดกระบี่ และแหล่งท่องเที่ยว

ซันดา รีสอร์ท อ่าวนาง

ซันดา รีสอร์ท ใช้เวลาขับรถมาจากสนามบินประมาณ 30 นาที และจากอ่าวนางเพียง 5 นาที ชายหาดมีความสวยงามและล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เป็นศูนย์กลางของร้านค้า ร้านอาหาร

มอบรถสามล้อพ่วงให้โรงเรียน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ มอบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างให้แก่โรงเรียนในสังกัด 10 แห่งที่ตั้งอยู่บนเกาะต่างๆ เพื่อเกิดความคล่องตัว ขนย้ายนักเรียนไปทำกิจกรรมกับโรงเรียนใกล้เคียง และลำเลียงวัสดุสื่อการเรียน เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2556