หอยชักตีน หรือ Strombus canarium จัดเป็นหอยฝาเดียวที่จัดอยู่ในครอบครัวของ Strombidae
ส่วนใหญ่พบการแพร่กระจายทั่วไปในทะเลแปซิฟิก พบมากตั้งแต่ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ไปทางตะวันตกสุดถึงเมลานีเซีย เหนือสุดถึงประเทศญี่ปุ่น และใต้สุดถึงควีนสแลนด์และนิวคาลีโดเนีย โดยทั่วไปแล้วจะอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นทรายปนโคลน และบริเวณหญ้าทะเลและสาหร่าย ตั้งแต่เขตน้ำขึ้น ลง ไปจนถึงในระดับความลึกถึงประมาณ 55 เมตร มีการเก็บมาใช้บริโภคเป็นอาหารในหลายประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
รวมทั้งมีการนำเปลือกมาใช้ประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานหัตถกรรมเครื่องใช้และของประดับตกแต่งต่างๆ ขนาดใหญ่สุดมีความยาวเปลือก 10 ซม. แต่โดยทั่วไปมักพบขนาดประมาณ 6-7 ซม. ในประเทศไทยพบได้ทั่วไปทั้งในฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน ถือเป็นหอยฝาเดียวชนิดที่พบมาก (common) สามารถพบเปลือกตามชายฝั่งทะเลทั่วไป แต่มีเพียงบางแหล่งที่มีการเก็บขึ้นมาใช้ประโยชน์เพื่อการบริโภคอย่างแพร่หลาย


การบริโภคหอยชักตีน
ที่หาดคลองม่วง ส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่นแถบจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระยอง ชุมพร ซึ่งโดยทั่วไปการเก็บจะใช้วิธีงมหา หรือเดินเก็บในเวลาน้ำลง ในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถพบในพื้นที่ชายฝั่งทะเลของทุกอำเภอ และปัจจุบันยังคงมีอยู่ สังเกตได้จากที่สามารถพบเปลือกหอยใหม่ๆ ตามชายหาดทั่วไป แต่ไม่มีแหล่งที่ทำการประมงเก็บหอยชักตีนจากธรรมชาติ มาบริโภคแพร่หลายเช่นในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน และไม่มีการศึกษาสำรวจอย่างจริงจัง จึงไม่ทราบสภาวะทรัพยากรหอยในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน
สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่นั้น เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดที่ติดกับทะเล อาหารทะเลจึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะต้องถามหาเพื่อจะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารทะเลที่สด มีราคายุติธรรม
ราคาหอยชักตีนที่กระบี่
หอยชักตีน ถือว่าเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของกระบี่ โดยการนำหอยไปลวกในน้ำเดือด เพื่อให้ส่วนที่คล้ายเท้าของหอยโผล่ออกมา จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ดทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักชิมเป็นอย่างยิ่ง ตัวหอยมีลักษณะพิเศษ ตรงปากจะมีติ่งคล้ายเล็บยื่นออกมาใช้สำหรับเดิน ชาวบ้านเรียกว่า “ตีน” ปัจจุบันกลายเป็นอาหารขึ้น ภัตตาคาร ราคาค่อนข้างสูง
ประมาณ 100-200 บาทต่อจาน แต่ใครจะนำหอยชักตีนไปทำบุญวันเกิด ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
สำหรับวิธีกินให้อร่อยสุดๆ ไปนั้น ให้ดึงส่วนที่เรียกว่า “ตีน” เพื่อให้ตัวหอยหลุดตามออกมาหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ชักตีน” หากไม่สามารถใช้มือดึงได้ก็จะใช้ไม้จิ้มฟันหรือเหล็กแหลมเสียบบริเวณเนื้อหอยแล้วดึงออกมาจิ้มน้ำจิ้ม หรือจะกินเปล่าๆ โดยไม่ต้องจิ้มก็ให้ความอร่อยไปอีกแบบ ความอร่อยของหอยจะขึ้นอยู่กับความสดใหม่ของหอย และผีมือการทำน้ำจิ้มด้วย
รสชาติโดยทั่วไป คือมีความหวานนิดๆ มัน เนื้อนุ่ม อร่อย มีคุณค่าประโยชน์มากมาย นอกจากใช้เป็นอาหารว่าง เป็นกับแกล้มหรือเป็นกับข้าวแล้ว เปลือกหอยยังใช้ทำเครื่องประดับบ้านทำเป็นของที่ระลึก โดยนำเปลือกหอยไปทำความสะอาด แล้วนำไปประดิษฐ์เป็นสิ่ง ที่ต้องการ


ชีววิทยาทั่วไปของหอยชักตีน
หอยชักตีนต้องกินที่ คลองม่วง กระบี่ เป็นหอยที่ขูดกินสาหร่ายและซากอินทรียสารต่างๆ เป็นอาหาร การสืบพันธุ์เป็นแบบผสมภายใน โดยมีเพศผู้ เพศเมียแยกกัน จับคู่ผสมพันธุ์กัน หลังจากนั้นจะวางไข่มีวุ้นหุ้มลักษณะเป็นสายยาวสีขาว ขดเป็นกระจุกคล้ายเส้นหมี่ ไข่จะพัฒนาใช้ระยะเวลาประมาณ 4-5 วัน จึงฟักออกเป็นตัวลูกหอย ซึ่งจะดำรงชีวิตว่ายน้ำ กรองกินแพลงก์ตอนพืชเล็กๆ เป็นอาหารอยู่ประมาณ 11-14 วัน จึงพัฒนาเข้าสู่ระยะลงพื้น เปลี่ยนการดำรงชีวิตเป็นขูดกินตะไคร่สาหร่ายหรืออินทรียสารต่างๆ ลูกหอยที่ได้จากการเพาะพันธุ์จะเติบโตได้ขนาดความยาวเปลือก 0.5-1 ซม. ภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน
การเพาะพันธุ์หอยชักตีน
การเพาะขยายพันธุ์หอยชักตีน สถานที่ท่องเที่ยว หาดอ่าวทึง ดำเนินการได้ประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2543 โดยสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดกระบี่ หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ในปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำลูกหอยที่เพาะพันธุ์ได้ลงปล่อยในแหล่งธรรมชาติ หลังจากนั้น ในปี 2544 ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ ได้นำพันธุ์หอยชักตีนมาจากกระบี่เพื่อใช้ในงานทดลองทางวิชาการ หอยที่นำมาศึกษาได้วางไข่
จึงทดลองทำการอนุบาลลูกหอย และสามารถผลิตลูกพันธุ์ได้จำนวนมาก จึงดำเนินการผลิตลูกพันธุ์หอยขนาด 0.3–1 ซม. เพื่อส่งให้ศูนย์ฯ กระบี่นำไปอนุบาลและนำลงปล่อยทะเลต่อไป โดยมีผลผลิตลูกหอยที่ส่งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ ในปี 2545 จำนวนรวมทั้งสิ้น 145,000 ตัว (เป็นลูกหอยขนาด 0.1-0.3 ซม. 85,000 ตัว และขนาด 0.3-1.0 ซม. จำนวน 60,000 ตัว) และในปี 2546 จำนวนรวม 50,000 ตัว (ขนาด 0.1-1.0 ซม. 25,000 ตัว และขนาด 0.3-1.5 ซม. จำนวน 25,000 ตัว) ในปัจจุบันยังมีลูกหอยขนาด 0.5-2.0 ซม. เหลืออยู่ที่ศูนย์ฯ ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมส่งให้กระบี่ จำนวนประมาณ 8,500 ตัว

ประติมากรรมหอยชักตีน อ่าวนาง กระบี่
โดยลูกหอยสายพันธุ์จากฝั่งอันดามันจะส่งไปปล่อยเฉพาะในทะเลฝั่งอันดามันเท่านั้น เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2546 ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ได้รวบรวม พ่อแม่พันธุ์หอยชักตีน ฝั่งอ่าวไทยจากจังหวัดชุมพร นำมาทดลองเพาะเลี้ยง และได้ลูกหอยฝั่งอ่าวไทยชุดแรก ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 8 สัปดาห์ มีขนาดความยาวเปลือกประมาณ 0.4-1.5 ซม. จำนวนประมาณ 30,000 ตัว ลูกหอยชุดนี้พร้อมที่จะนำลงปล่อยในทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หรือชายฝั่งอ่าวไทยได้ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2546 จังหวัดกระบี่ได้นำหอยชักตีน ทูลเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ในการนี้ ได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า ให้ศึกษารายละเอียด หอยชักตีนจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในทะเล พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้หรือไม่อย่างไร หากเจริญเติบโตได้ดี ทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดหาพันธุ์มาปล่อยต่อไป เพื่อเป็นการรับสนองพระราชประสงค์ กรมประมงได้ทำการผลิตลูกพันธุ์หอยชักตีนจากโรงเพาะฟัก และเตรียมการเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าถวายเพื่อทรงปล่อยลงชายฝั่งทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป
แหล่งอ้างอิง : http://www.fisheries.go.th
สายใยรักแห่งครอบครัว
จังหวัดกระบี่ประชุมคณะกรรมการ โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
คลองม่วง update มามีแต่
แหม ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ คลองม่วง update มามีแต่ปากช่อง ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะ กระบี่ ก็มี คลองม่วง นะจ๊ะ อย่าลำเอียงกันสิ
นายกสมาคมท่องเที่ยวกระบี่ คนใหม่
ที่โรงแรมกระบี่ มารีไทม์ ปาร์ค แอนด์สปารีสอร์ท อ.เมือง จ.กระบี่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้มีการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2555/2556 พร้อมกำหนดวาระเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ แทนคนเก่า หลังจากที่นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก อดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
ทำไฟดับทั่วใต้ หวังสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่
ชาวบ้านกลุ่มพิทักษ์ปกาสัย เผยเหตุไฟดับทั่วภาคใต้เป็นแผนบันไดขั้นแรกของ กฟผ. อ้างปริมาณไฟไม่เพียงพอหวังลดกระแสการต่อต้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยในวันที่ 22 พ.ค.56 นายสุนทร ศรประเสริฐ ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มพิทักษ์ปกาสัย
เที่ยวกระบี่ สัมผัสความงามแห่งอันดามัน
เข้ามาสัมผัสความงามแห่งอันดามัน กับการไปเที่ยวทะเลกระบี่ กันดีกว่า เริ่มจากการเก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวทะเลให้ฉ่ำอุรา
คิดไม่ออกแล้ว
คิดอะไรไม่ออกจริงๆ โรคเครียดเริ่มเกิดกับตัวเองแล้ว ตอนนี้น้ำหนักลดลงไป 5 กก. แล้ว จะกินอาหารเสริม ก็ไม่มีเงินซื้อแล้ว แพงเหลือเกิน ประมาณว่า คิดมาก กินข้าวไม่ได้ กินอะไรก็ไม่อร่อย จืดไปหมด มันขมปาก