ที่เที่ยว วังน้ำเขียว ก็เป็นแค่อำเภอหนึ่งที่อยู่ตอนใต้ของจังหวัดนครราชสีมา สำหรับที่มาของชื่อ วังน้ำเขียว นั้นสันนิษฐานได้ว่ามาจากสภาพภูมิประเทศของที่นี่ เพราะพื้นที่ในแถบนี้มีวังน้ำที่ใสสดงดงามเป็นธรรมชาติ ทำให้น้ำนั้นใสสด จนสามารถมองเห็นเงาสะท้อนสีเขียวของต้นไม้ ใบหญ้า ได้ชัดเจน จึงเรียกพื้นที่นี้ว่า วังน้ำเขียว กระทั่งในปัจจุบันนั่นเอง
วังน้ำเขียว มีถนนเส้นหลักที่พาดผ่านอำเภอ กบินทร์บุรี จากด้าน จ.ปราจีนบุรี ผ่านวังน้ำเขียวยาวลงไปถึงปักธงชัย คือทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 304 ที่นี่ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เที่ยวที่ วัง น้ำ เขียว ปัจจุบันนี้ วังน้ำเขียว เองมีการปกครอง แยกเป็น 5 ตำบลต่างๆ ประกอบด้วย ตำบลวังน้ำเขียว ตำบลไทยสามัคคี ตำบลอุดมทรัพย์ ตำบลวังหมี และตำบลระเริง และมีพื้นที่ติดต่อกับ อำเภอนาดี อำเภอปักธงชัย อำเภอปากช่อง อำเภอเสิงสาง และอำเภอครบุรี
การท่องเที่ยวที่ วังน้ำเขียว ( Wang Nam Kheo ) จ.นครราชสีมา ควรประกอบด้วยการเที่ยว 4 รูปแบบหลัก คือ
- การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) คือ การท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติ และ แหล่งวัฒนธรรม เพื่อการพักผ่อน และการเรียนรู้ วิชาการรักษาสุขภาพกายใจ ได้รับความเพลิดเพลิน และสุนทรียภาพ มีความรู้ต่อการรักษาคุณค่า และคุณภาพชีวิตที่ดี มีสำนึกต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมท้องถิ่น
- การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ (Ecotourism) คือ การท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบในแหล่งธรรมชาติ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นและแหล่งวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับระบบนิเวศ โดยมีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของผู้เกี่ยวข้อง ภายใต้การจัดการสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดจิตสำนึกต่อการรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
- การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agrotourism) เช่น งานเบญจมาศบานในม่านหมอก คือ การเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เกษตรกรรม สวนเกษตร วนเกษตร ฟาร์มปศุสัตว์ เพื่อชื่นชมความสวยงาม ควาสำเร็จ และเพลิดเพลินในแหล่งเกษตรกรรมนั้น บนพื้นฐานการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่แห่งนั้น
- การท่องเที่ยวชมงานวัฒนธรรมและประเพณี (Traditional and Cultural Tourism) คือ การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อชมงานประเพณีต่างๆ ในรอบปี ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นๆจัดขึ้น ได้รับความเพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจในสุนทรียศิลป์ มีความรู้ ความเข้าใจต่อสภาพสังคมและวัฒนธรรมท้องถิ่น บนพื้นฐานการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ และมีจิตสำนึกต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อม โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมการจัดการการท่องเที่ยว
สภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ ของอำเภอวังน้ำเขียวส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสูง เลยทำให้วังเขียวมีอากาศที่เย็นสบายเกือบทั้งปี มีฝนตกชุก และมีหมอกมาก จะเห็นได้จากคำขวัญของอำเภอ ที่ว่า
วังน้ำเขียว เมืองหนาว ภูเขามากมาย น้ำตกหลากหลาย ผลไม้นานาพันธุ์ แดนสวรรค์เมืองหมอก
แต่คนส่วนมากที่เคยมาเที่ยวจะกล่าวถึงวังน้ำเขียวว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน เพราะพื้นที่และอากาศในแถบนี้คล้ายคลึงกับสวิตเซอร์แลนด์ เป็นโชคดีของคนไทยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงยุโรปก็สามารถสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามได้เช่นกัน
สถานที่ท่องเที่ยว น่าสนใจของวังน้ำเขียวที่แนะนำ คือ
ผักสลัดเมืองหนาวปลอดสารพิษบ้านสุขสมบูรณ์ อยู่ที่ 111 ม. 2 ต. ไทยสามัคคี ห่างจากซุ้มไม้งามไปอีก 5 กิโลเมตรผ่านโรงเรียนบ้านไทยสามัคคี เป็นจุดถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร เรื่องการผลิตผักปลอดสารพิษ และเป็นแหล่งปลูกผักสลัด ทั้งสลัดใบเขียว ใบแดง สลัดแก้ว สลัดใบแดงหยิกฝอย ฯลฯ สนใจติดต่อ นายไกร ชมน้อย โทร. 0 1274 6961
สวนไม้ดอกไม้ประดับ ซุ้มไม้งาม อำเภอวังน้ำเขียวเป็นแหล่งปลูกไม้ดอกไม้ประดับสำคัญของภาคอีสาน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่สูง มีอากาศเย็น ไม้ดอกที่ปลูกกันมากได้แก่ เบญจมาศ และหน้าวัว นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมได้ตามทางเส้นทางสู่อำเภอวังน้ำเขียว โดยเฉพาะที่ตำบลไทยสามัคคี สวนไม้ดอกไม้ประดับแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ ซุ้มไม้งาม ของคุณชูศักดิ์ นิยมนา อยู่ที่บ้านบุไผ่ ตำบลไทยสามัคคี เลยที่ว่าการอำเภอวังน้ำเขียวไป 5 กิโลเมตร แยกซ้ายบ้านบุไผ่อีก 3 กิโลเมตร สวนแห่งนี้ได้รับทุนโครงการหลวงมาช่วยพัฒนา ผลผลิต ได้แก่ เฟิร์น, เบญจมาศ, เซอนาดู่ (ตัดใบขายใช้แต่งแจกัน) กุหลาบ (มีเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม) หน้าวัว ผลไม้ได้แก่ มังคุด เงาะ ลิ้นจี่ กระท้อน ลองกอง มะขามหวาน ช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม มีผลไม้
สวนผลไม้ปลอดสารพิษบ้านศาลเจ้าพ่อ อยู่ที่ 268 หมู่ที่ 1 บ้านศาลเจ้าพ่อ ต. วังน้ำเขียว แยกขวามือตรงศาลเจ้าพ่อหลวงราช (ทางขึ้นเขาแผงม้า) เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านศาลเจ้าพ่อ – คลองสอง อีกประมาณ 500 เมตร มีพื้นที่ 40 ไร่ ปลูกผลไม้ในลักษณะผสมผสานกันจำนวนมากกว่า 40 ชนิด เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่ ฯลฯ โดยไม่ใช้สารเคมีแต่ใช้วิธีคิดค้นหาสูตรจากพืชสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทำให้ลดต้นทุนการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
สำหรับการเดินทาง เที่ยวที่ วังน้ำเขียว
ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 สายนครราชสีมา-วังน้ำเขียว-ชลบุรี เป็นเส้นทางหลักที่ผ่านอำเภอวังน้ำเขียว และ ใช้ในการติดต่ออำเภอใกล้เคียง การเดินทางจากกรุงเทพ มายังฉะเชิงเทราก่อน ด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ หรือ โดยถนนสุวินทวงษ์ก็ได้ แล้วใช้เส้นทาง ถนน 304 มุ่งสู่สี่แยกกบินทร์บุรี รวมประมาณ 180 กิโลเมตร จากแยกกบินทร์บุรีนี้ไปถึงวังน้ำเขียว อีก 60 กิโลเมตร เป็นเส้นทางลาดขึ้นเขาสวยงาม ถ้ามาจากจังหวัดนครราชสีมา ตามถนน 304 ผ่านอำเภอปักธงชัย ถึงอำเภอวังน้ำเขียว ระยะทางประมาณ 79 กิโลเมตร ก็สามารถถึง เที่ยวที่ วัง น้ำ เขียว ได้แล้ว
ฤดูหนาวของวังน้ำเขียว เริ่มต้นประมาณเดือนพฤศจิกายน-มกราคม อุณภูมิก็หนาวกำลังดีประมาณ 9-18 องศา ทำให้ได้รู้สึกถึงความเป็น หน้าหนาวจริงๆส่วนหน้าฝนนั้น มีฝนตกชุก เมื่อหลังฝนตกแล้ว ส่วนใหญ่จะมีหมอกพัดมาเป็นสายอย่างชัดเจน จนบางครั้งรู้สึกว่า อยู่ในทะเลหมอกเลยทีเดียว ซึ่งภาพและบรรยากาศแบบนี้ ยากที่จะบรรยายความสวยงามออกมาเป็นคำพูดได้ ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวท่านเองที่นี่ แล้วคุณจะหลงไหลไปกับ ที่เที่ยว วัง น้ำ เขียว
Please visit ที่พัก วังน้ำเขียว for more post.
สปาโคลน หาดทรายร้อน อ่าวลึก กระบี่
เที่ยวสปาโคลน สปาทราย ที่อ่าวลึก กระบี่ ไม่ไกล แหล่งท่องเที่ยวใหม่ทางธรรมชาติด้วยหาดทรายและโคลนร้อน ที่อ่าวลึก กระบี่ บริเวณ หาดทรายร้อน
Klong Muang Beach
คลองม่วง ในห้วงแห่งความทรงจำ At the Klong Muang in the Memories As Krabi’s klong muang beach
Renaissance Hotel Bangkok to Pattaya
ใน bangkok ก็มีโรงแรมชื่อดังอย่าง Renaissance Hotel แต่น่าเสียดาย เนื่องจากไม่ได้ทำข้อมูลในส่วนของกรุงเทพ แต่ว่า จะมีข้อมูลสำหรับการ review ห้องพักของ Renaissance Hotel ใน Samui
The Greenery Hotel ในเมือง กระบี่
The Greenery Hotel Krabi is a new selection of reasonable prices with the good values
ทำไมต้องมี กิจกรรมวันขึ้นปีใหม่
โดยปกติแล้ว ธรรมดาของคนคือชอบการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะพี่ไทยเรานั้น มีการฉลองกันได้ทุกเมื่อเชื่อวัน เริ่มตั้งแต่วันเกิดตัวเอง วันเกิดเพื่อน ญาติมิตรสหาย วันเกิดเพื่อนบ้าน
ท่าปอมคลองสองน้ำ อ่าวลึก กระบี่
ไปท่าปอม คลองสองน้ำ จังหวัดกระบี่ แนะนำข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ น่าสนใจที่คุณยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน หากผ่านมาด้านนี้จะเจอ คลองท่าปอม เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ 2 น้ำ 3 ป่าอันทรงคุณค่าน่าพิศวง