ถ้ำวิมานเมฆ กระบี่

ตะลึง พบถ้ำที่กระบี่ ตั้งชื่อว่า ถ้ำวิมานเมฆ ภายในถ้ำมีพื้นที่กว้างขวาง มีโถงกว่า 10 ห้อง สามารถจุผู้คนนับพัน และมีหินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงาม ส่องแสงประกายกระทบสายตานักเดินทาง ในขณะที่อบต.หน้าเขา ต.เขาพนม กระบี่ เตรียมพลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศแล้ว

จากเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2552 นายสมชาย สังข์รอด ประธานสภาอบต.หน้าเขา นายณัฐดนัย ขยายแก้ว รองนายก อบต. หน้าเขา นายชยพล สังข์รอด ผู้ใหญ่บ้านห้วยน้ำแก้วในขณะนั้น นำเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองพระยา พร้อมชาวบ้านจำนวน 20 คน เดินทางไปตรวจสอบถ้ำวิมานเมฆ ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านห้วยน้ำแก้ว หมู่ที่ 6 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ หลังจากทราบจากชาวบ้านว่า ถ้ำดังกล่าวมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวใดๆ ในประเทศ

ชมถ้ำวิมานเมฆ ที่กระบี่

ในการเดินทางไปชมถ้ำวิมานเมฆในครั้งนี้ ทางคณะสำรวจและชาวบ้านบางส่วน ต้องเดินเท้าลัดเลาะขึ้นไปบนยอดเขาสูงชัน รวมระยะทางกว่า 800 เมตร และมีการหยุดพักระหว่างทาง แต่เมื่อไปถึงปากถ้ำทุกคนก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะอากาศบริเวณปากถ้ำนั้น เย็นสบายมาก
หลังจากนั้น คณะเดินทางสำรวจก็เริ่มเดินชมภายในถ้ำวิมานเมฆ พบหินงอกหินย้อยสีขาวนวล มีรูปร่างที่หลากหลาย บางส่วนก็ย้อยลงมาเหมือนน้ำตก เมื่อแสงไฟไปกระทบก็เกิดประกายระยิบระยับ แพรวพราว คล้ายเคลือบด้วยกากเพชรแวววาวเป็นระยะๆ

นอกจากนั้นแล้ว ภายในถ้ำยังมีความกว้างขวาง ลักษณะเป็นห้องโถงแยกเป็นสัดส่วนรวมกว่า 10 ห้อง เป็นห้องขนาดใหญ่ มีความกว้างประมาณ 50-60 เมตร ยาวประมาณ 500-600 เมตร จำนวน 2 ห้อง และห้องขนาดเล็กอีกจำนวนกว่า 10 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องมีหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างแตกต่างกันออกไปรวมกว่า 30 แห่ง เช่นรูปช้าง รูปสิงห์ รูปต้นคริสต์มาส รูปคน ฯลฯ โดยเฉพาะใจกลางห้องโถงใหญ่ พบหินงอก รูปร่างคล้ายกับสิงห์แหงนหน้า ขนาดกว้าง 2 เมตร สูง 3 เมตร นอกจากนั้นก็มีแท่นหินคล้ายบัลลังก์ ตั้งตระหง่านอยู่ข้างๆ รูปสิงห์ สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่คณะสำรวจเป็นอย่างมาก จากนั้นคณะสำรวจและชาวบ้านก็ใช้เวลาในการเดินสำรวจดูห้องโถงและหินงอกหินย้อยอยู่เป็นเวลาพอสมควร เนื่องจากต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถเที่ยวชมได้ครบทุกจุด แต่อากาศภายในถ้ำก็เย็นสบายเป็นอย่างมาก ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนถ้ำอื่นๆ จึงทำให้การเดินสำรวจภายในถ้ำมีความเพลิดเพลินไม่รู้สึกเบื่อ

นายชยพล สังข์รอด ผู้ใหญ่บ้านห้วยน้ำแก้วในขณะนั้น กล่าวว่า ชาวบ้านได้ขึ้นมาพบถ้ำแห่งนี้เมื่อ 10 ปีก่อน ตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อตนได้เข้ามาสำรวจก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า มีความสวยงามมากจริงๆ โดยเฉพาะหินย้อย ที่มีประกายแสงระยิบระยับ ตอนแรกได้ตั้งชื่อว่า “ถ้ำเพชร” ต่อมาชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า “ถ้ำวิมานเมฆ” จึงใช้ชื่อถ้ำวิมานเมฆตั้งแต่นั้นเป็นมา ในเบื้องต้นก็จะขอให้ทางอบต.หน้าเขา เข้ามาดำเนินการสำรวจและปรับปรุงเส้นทางขึ้นไปยังถ้ำวิมานเมฆแห่งนี้ต่อไป เพราะจะได้เดินขึ้นไปสะดวกมากขึ้น

ด้านนายณัฐดนัย ขยายแก้ว รองนายกอบต. หน้าเขา กล่าวว่า เบื้องต้นทางอบต. จะทำหนังสือไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองพระยา ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว เพื่อขอให้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ปิดถ้ำเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการปรับปรุง เพราะมีคนเข้ามาลักลอบตัดหินย้อยออกไปบางส่วนแล้ว โดยทางอบต. หน้าเขา จะตั้งงบประมาณในส่วนการทำเส้นทางขึ้นเขา เพื่อสะดวกในการเข้าชม และจะประสานผู้เกี่ยวข้องพลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดต่อไป